ประเทศกัมพูชา Cambodia

ประเทศกัมพูชา Cambodia

ประเทศกัมพูชา Cambodia

ประวัติศาสตร์
จากการพิสูจน์อายุโดยคาร์บอน 14ที่เป็นของ ที่ถ้ำกบาลสเปียนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา บอกได้ว่า ผู้คนที่รู้จักทำหม้อดินอาศัยอยู่ในถ้ำนี้ตั้งแต่ 4200 ปี ก่อนคริสตกาล อีกถ้ำหนึ่งใกล้ทะเล มีผู้คนอาศัยอยู่ราวพันปีหลังจากนั้น ซึ่งพอจะสรุปได้ว่ามีผู้คนเข้ามาอาศัยในดินแดนนี้นานก่อนหน้านั้นแล้ว มีผู้พบหลักฐานเก่าแก่ไปกว่านั้นคือ วัฒนธรรมการใช้เครื่องมือหินกรวดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กะโหลกศีรษะ กระดูกพบที่สำโรงเซน อายุราว 1502 ปีก่อนคริสตกาล ชี้ให้เห็นว่าผู้คนในยุคก่อนประวัติศาสตร์มีความละม้ายคล้ายคลึง กับชาวกัมพูชาในปัจจุบันซึ่งมีการผสมสายเลือดกับชาวจีนและเวียดนาม

ยุคมืดของกัมพูชายุคมืดของกัมพูชา เริ่มตั้งแต่อาณาจักรอยุธยาได้โจมตีอาณาจักรเขมร และ ได้เผา พระนคร เมืองหลวงของอาณาจักรเขมร ราบเป็นหน้ากลอง ทำให้อาณาจักรเขมรเป็นส่วนหนึ่งของสยามประเทศตั้งแต่บัดนั้นมา เขมรเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในฐานะดินแดน ประเทศราช อาณาจักรอยุธยาปกครองเขมรเป็นเวลาเกือบ400ปี ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์เขมรตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดิสยามอย่างเข้มงวด ในสมัยรัชกาลที่3 ได้เกิด สงครามอานามสยามยุทธทำให้กัมพูชาเป็นรัฐอารักขาระหว่างสยามกับญวณ ก่อนที่จะตกเป็นของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา

สมัยอาณานิคมฝรั่งเศสกัมพูชาเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาตั้งแต่พ.ศ. 2406 ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้เข้ายึดครองกัมพูชาไว้ แล้วปลดผู้ปกครองกัมพูชาที่เป็นชาวฝรั่งเศสและผู้นิยมฝรั่งเศสออกไป เมื่อสงครามโลกครั่งที่ 2 ยุติลง ฝรั่งเศสได้ขับไล่ญี่ปุ่นออกจากกัมพูชาเป็นฝ่ายชนะสงคราม กัมพูชาจึงต้องตกเป็นของฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาฝรั่งเศสมีภาระการต่อสู้ติดพันกับนักชาตินิยมในเวียดนาม จึงต้องหาทางประนีประนอมกับกัมพูชา โดยได้จัดทำสนธิสัญญาขึ้นเพื่อเปลี่ยนสภาพจากการที่กัมพูชาเป็นเมืองขึ้นมาเป็นรัฐในอารักขาแห่งเครือจักรภพของฝรั่งเศสในระยะที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสได้เจ้าสีหนุเป็นกษัตริย์ปกครองกัมพูชา เมื่อญี่ปุ่นยึดกัมพูชาได้ จึงให้เจ้าสีหนุประกาศเอกราชเป็นอิสระจากฝรั่งเศส แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม ฝรั่งเศสจึงกลับเข้ามามีอำนาจในกัมพูชาเหมือนเดิม

ภูมิศาสตร์ :
ประเทศกัมพูชามีพื้นที่ประมาณ 181,035 ตารางกิโลเมตร
ส่วนที่กว้างที่สุดจากทิศตะวันออกไปตะวันตก 580 กิโลเมตร จากเหนือจรดใต้ 450 กิโลเมตร


อาณาเขต :
ทิศเหนือติดกับประเทศลาว และประเทศไทย
ทิศใต้ติดกับทะเลอ่าวไทย
ทิศตะวันออกติดกับประเทศเวียดนาม
ทิศตะวันตกติดกับอ่าวไทยและประเทศไทย

กัมพูชามีทะเลสาบน้ำจืดซึ่งเกิดจากแม่น้ำโขงมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเซียชื่อว่า “โตนเลสาบ” (Tonle Sap) มีแม่น้ำโขงไหล่ผ่าน ยาว 500 กิโลเมตร จากนั้นไหลเข้าสู่เวียดนามลงสู่ทะเลจีนใต้ นับว่าเป็นแม่น้ำนานาชาติ เชื่อกันว่าปลาบึกซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกว่ายทวนน้ำจากโตนเลสาบขึ้นสู่ประเทศไทย-ลาว
ก่อนไปผสมพันธ์ที่จีนซึ่งเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำโขง

โตนเลสาบ : อยู่ห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 100 กิโลเมตร ลึกถึง 10 เมตร โตนเลสาบ ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดคือ กำปงธม กำปงชะนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และเสียมเรียบ ในโตนเลสาบมีปลาชุกชุมกว่า 300 ชนิด

ภูเขา : ยอดเขาสูงสุดของกัมพูชาคือ พนมอาออรัล (Phnom Aoral) สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,813 เมตร ทิศเหนือของกัมพูชามีเขตแดนติดกับประเทศไทยระยะทางยาวไกลถึง 750 กิโลเมตร ติดกับจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด โดยมีเทือกเขาพนมดงรัก และเทือกเขาบรรทัดกั้น

ป่าไม้ : กัมพูชาเป็นประเทศที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มากที่สุดหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ในปี พ.ศ. 2503 เคยมีป่าไม้มากถึง 75% ของประเทศ ปี พ.ศ. 2536 ลดเหลือ 49% ปัจจุบันป่าไม้ลดลงอย่างมากหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดให้สัมปทานป่ากับบริษัทเอกชนจากประเทศอินโดนีเซีย, มาเลเซีย และญี่ปุ่น ภูมิอากาศ : เป็นแบบร้อนชื้นแถบมรสุม

ฤดูฝนเริ่มจากเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม
ฤดูแล้งเริ่มจากเดือนพฤศจิกายน-เมษายน
เดือนเมษายนมีอุณหภูมิสูงที่สุด
เดือนมกราคมมีอุณหภูมิต่ำที่สุด
เดือนตุลาคมมีฝนตกชุกมากที่สุด

ประชากร : กัมพูชามีประชากรประมาณ 17.04 ล้านคน(ปี พ.ศ.2564) เชื้อสายเขมร 97.6% รองลงมาคือชาวจาม (นับถือศาสนาอิสลาม) นอกจากนั้นเชื้อสายเวียดนาม จีน และชาวเขาเผ่าต่างๆ

ศาสนา : ฮินดูเป็นศาสนาที่เข้ามาจากอินเดียผ่านทางชวาเมือกว่า 2,000 ปีมาแล้ว ต่อมามีศาสนาพุทธ นิกายมหายานเข้ามาเมือ 800 ปีก่อน ส่วนนิกายหินยานเข้ามาภายหลังในรัชสมัยของนักองค์จันทร์ (พ.ศ.2059) ปัจจุบันศาสนาพุทธ นิกายหินยาน เป็นศาสนาประจำชาติ

ภาษา : ภาษากัมพูชา อังกฤษ ฝรั่งเศส และภาษาไทย

สกุลเงิน : ของประเทศกัมพูชาคือ เรียล (Riel) อัตราแลกเปลี่ยน เงินตราปัจจุบัน(พ.ศ.2567) คือ 1 US$ เท่ากับ 4,060.68 เรียล  เงิน 100 บาทไทยจะแลกเงินเรียลได้ประมาณ 11,879.76 เรียล (1 บาทไทยเท่ากับ 0.0084 เรียล โดยประมาณ)

สำหรับเงินเรียลที่มีใชกันอย่างแพร่หลายในประเทศกัมพูชาส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นธนาบัตรใบละ 100, 1,000, 5,000, 10,000 เรียล ในเมืองเสียมเรียบ พระตะบอง ศรีโสภณ ไพลิน และที่กรุงพนมเปญสามารถใช้เงินไทยได้ ยกเว้นเงินไทยที่เป็นเหรียญ

เช่น เหรียญหนึ่งบาท เหรียญห้าบาท เหรียญสิบบาท ใช้ได้แค่เมืองชายแดนไกล้ชิดติดกับประเทศไทยเท่านั้น เช่น อำเภอโอโจโร(ปอยเปต) อำเภอศรีโสภณ เมืองพระตะบองและไพลิน แต่ถ้าเป็นธนบัตรใบละสิบบาทและยี่สิบบาทถึงจะใช้ได้ เพราะประเทศกัมพูชาไม่มีเงินในลักษณะเป็นเหรียญกษาปณ์ให้ใช้ มีแต่เงินลักษณะเป็นธนบัตรเท่านั้น

ถึงแม้ว่าเงินไทยจะใช้ได้เลยในประเทศกัมพูชา แต่ทางที่ดีแล้วควรแลกเปลี่ยนเงินเรียลของกัมพูชาจะสะดวกกว่า เพราะจะได้ไม่เสียเปรียบในการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้ามากนัก ป้ายราคาสินค้าและอาหารในประเทศกัมพูชาจะแสดงราคาเป็นเงินเรียลและเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเท่านั้น
(ที่มา : วิกิพีเดีย)


 

 

Tags ที่เกี่ยวข้อง
Share on social networks
ติดต่อสำนักงาน
หจก.โฟโต้เวิลด์ทัวร์ แอนด์ทรานสปอร์ต
เลขที่ใบอนุญาต 11/01064

122 ถนนพิบูลสงคราม ซอย 6 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 แผนที่

จันทร์-ศุกร์ 9:00-18:00
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
ติดตามเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา